คุณภาพอากาศในอาคารอาจเป็นปัญหาได้ตลอดเวลาของทุกอาคาร แต่เป็นเรื่องที่น่ากังวลเป็นพิเศษสําหรับห้อง ที่มีระบบปรับอากาศที่ จําเป็นต้องปิดหน้าต่างทุกบานปิดแน่นตลอดเวลา และไม่มีสิ่งใดที่ชัดเจนไปกว่าห้องน้ํา ที่มีอากาศชื้นและ ความชื้นที่ทําให้เกิดเชื้อรา กลิ่น เหม็น กลิ่นอับ และสามารถทําให้เกิดความเสียหายกับสภาพแวดล้อมภายในบ้านของคุณ นอกจากนี้ยังเพิ่มความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยโดยลด ควันจากสารทําความสะอาดที่อาจทําให้เกิดปัญหาสุขภาพ
1. กําจัดกลิ่น หนึ่งในเหตุผลหลักของการมีพัดลมดูดอากาศคือการควบคุมกลิ่น หากมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นในห้องน้ําสามารถดึง ออกมาได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นพัดลมดูดอากาศจะช่วยให้คุณลดกลิ่นในห้องห้องน้ําได้อย่างดี และยังช่วยให้บรรยากาศที่ สะอาด ปราศจากกลิ่น สําหรับคนต่อไปที่ใช้งานได้อีกด้วย
2. ช่วยในการลดความชื้นในห้องน้ํา สําหรับห้องที่มิดชิดไม่มีช่องระบายอากาศ การลดความชื้นในห้องน้ํามีความสําคัญ ความชื้นที่มากเกินไป อาจทําให้เกิดความเสียหายบนผนังห้องน้ําโดยทําให้สีหรือวอลล์เปเปอร์ลอก ในกรณีที่รุนแรงก็อาจทําให้ประตู วงกบหรือหน้าต่างที่เป็นไม้ อาจ เกิดการบวมหรือเกิดการเสียหายได้
สิ่งสําคัญที่สุดคือความชื้นสามารถทําให้ สปอร์ เชื้อ ซึ่งสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วและยากต่อการกําจัด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสําคัญที่จะต้องมี พัดลมดูดอากาศในห้องน้ําเพื่อป้องกันสิ่งนี้เกิดขึ้น หรือติดตั้ง เครื่องลดความชื้น ไปเลย
3. ลดสารปนเปื้อนในอากาศ โดยทั่วไปแล้ว ห้องน้ําจะถูกทําความสะอาดด้วยน้ํายาทําความสะอาดที่ประกอบด้วยกรด ซึ่งอาจทําให้เกิด ปัญหาสุขภาพหลายอย่างเมื่อสูดดม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับเด็กเล็กผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจ
พิษที่เกิดจากน้ำยาล้างห้องน้ำ
ไอระเหยของก๊าซไฮโดรเจนคลอไรด์มีฤทธิ์ทําให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ
4. นอกจากนี้หากห้องน้ํากําลังประสบปัญหาเชื้อราพัดลมจะช่วยกําจัดสปอร์ที่สะสมอยู่ในอากาศ ในทางกลับกันนี้จะช่วยชะลออัตราการเติบโต ได้อีกด้วย
5. ไอน้ํา ฝ้า ติดกระจก พัดลมดูดอากาศในห้องน้ําจะช่วยควบคุมความชื้นและกําจัดไอน้ําบนกระจกและผนังของคุณ
โดยทั่วไปการเคลื่อนไหว หรือการระบายของอากาศจะวัดเป็นลูกบาศก์ฟุตต่อนาที (CFM) และสำหรับบ้านนิยมใช้หน่วย ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง (CMH) ซึ่ง การเลือกใช้ พัดลมดูดอากาศที่เหมาะสมนั้น สามารถคํานวณได้ดังนี้
ขนาดปริมาตร ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง (CMH) = ขนาดห้อง ลูกบาศก์เมตร (ขนาดห้อง กว้าง X ยาว X สูง ) X 10
ตัวอย่างเช่น
ห้องน้ํา ขนาด 4X2 เมตร สูง 2.5 เมตร ก็จะได้ปริมาตร 30 ลูกบาศก์เมตร ขนาดพัดลมดูดอากาศที่เหมาะสมก็คือ 200 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง (200 CMH)